เคยคิดไว้เหมือนกันว่า อยากลองเที่ยวด้วยรถไฟฟ้าในกรุงเทพแบบวันเดียว แล้ววันนี้ก็ได้ทำจนได้ ต้องเล่าเกริ่นๆ ก่อนว่า พอดีไปส่งพี่สาวไปลาดกระบังด้วย ARL แต่เช้ามาก แล้วเราก็ไม่รู้จะไปไหน ครั้นจะตีรถกลับมาที่รังสิตเลยก็ดูจะเสียเวลาไปมั้ย ประกอบกับมือถือตัวเองมีปัญหาอยู่ เลยต้องไปหาที่ซ่อมมือถือตัวเองก่อน (ปัญหาที่ผู้ใช้ Android คุ้นเคยกันดี) แล้วไปเห็นว่าที่ ARL มักกะสันมีการจัดงาน a day Bike Fest 2013 ด้วย เกี่ยวกับคนรักจักรยาน ส่วนศูนย์ฯ ศิริกิตต์มีการจัดงาน Commart พอดี แผนเลยเป็นแบบนี้ครับ
ผมจะไป 3 ที่ด้วยกัน โดยไปที่ Too Fast Too Sleep ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ (MRT สามย่าน) เพื่อไปทำงาน จากนั้นไปเดินเล่นที่งาน Commart Thailand 2013 ที่ศูนย์การะประชุมแห่งชาติศิริกิตต์ (MRT ศูนย์ฯ ศิริกิตต์) สุดท้ายก็ไปเดินเล่นที่งาน a day Bike Fest 2013 (MRT เพชรบุรี -> ARL มักกะสัน) ตามนี้นะครับ
จาก BTS พญาไท -> MRT สามย่าน = Too Fast Too Sleep
ผมเริ่มต้นก่อนจาก BTS พญาไท จากนั้นก็ไปลงที่ BTS สยามเพื่อเปลี่ยนไปสายสีลมแล้วไปลงที่ BTS ศาลาแดง จากนั้นไปต่อที่ MRT สีลม แล้วนั่งไปลงที่ MRT สามย่าน ซึ่งเป็นที่หมายแรกของผมนะครับ
สำหรับร้าน Too Fast Too Sleep เป็นร้านที่ผมมาบ่อยมาก มันคือร้านกาแฟที่ผสมผสานกับที่อ่านหนังสือหรือเป็น Co-work Space ให้กับคนที่ทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะมันเปิดตลอด 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว เวลาผมเลือกมาทำงานข้างนอกสถานที่็ ผมจะเลือกที่นี่นะ เพราะว่าบรรยากาศมันสบาย เลือกที่นั่งได้เอง (ในวันที่ไม่ค่อยมีคน) ร้านนี้จะแน่นก็ต่อเมื่อเป็นช่วงสอบครับ แถวนั้นเด็กจุฬาเค้าจะอยู่กัน ฉะนั้น อยากไปทำงานแบบชิวๆ ไม่ค่อยมีเสียงรบกวนเยอะๆ ก็แนะนำให้ไปช่วงหลังเด็กจุฬาสอบกัน
ภายในร้านจะมีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ไม่สามารถซื้อจากข้างนอกแล้วนำไปรับประทานในร้านได้นะครับ เค้าจะมาเตือนแล้วไม่ให้เราใช้บริการเลยหละ พูดถึงเครื่องดื่มก่อน มีทั้งกาแฟ โกโก้ บลาๆๆ สารพัดเครื่องดื่มที่ร้านทั่วๆ ไปก็มีกัน แต่มาทีไรก็จะสั่ง Too Fast เย็นตลอด เป็นกาแฟที่เข้มพอสมควร ไม่หวานมาก แต่ไม่รู้ทำไมวันทีไ่ปกิน จืดมาก จืดแบบ…แทบจะเป็นน้ำเปล่าเลย ก็เลยไม่เป็นไรช่างมัน อ้อ! แล้วด้วยความที่เค้าเปิดให้บริการฟรี ราคาเครื่องดื่มและอาหารที่นี่ก็จะเทียบได้ว่าซื้อบริการอยู่นั่นแหละครับ ยกตัวอย่างคือรูทเบียร์ของ A&W ปกติถ้าเราซื้อข้างนอกก็ไม่เกิน 20 บาทอะ แต่ร้านนี้จะขาย 40 บาท ส่วนราคากาแฟเย็นจะมีเรทอยู่ 90 บาท ฉะนั้นอย่าบ่นว่ามันแพงเลยครับ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยเค้าเป็นค่าไฟเนอะ ส่วน Wi-Fi ที่ร้านก็ฟรีครับ เล่นได้ประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้ใช้ก็ต่อเมื่อเอาใบเสร็จที่เราซื้อของนั่นแหละไปแลกรหัสมา ปลั๊กไฟจะมีอยู่ถมเถมาก เลือกชาร์ทได้ตามสบาย ห้องน้ำมีห้องเดียวแยกฝั่งชายหญิง แต่ก็ไม่มีคนใช้หนาแน่นเท่าไหร่ รอบนอกของร้านมีร้านอาหารอยู่ครับ ฉะนั้นไปทำงานเที่ยงๆ หิวก็เก็บของลงมาก่อน หรือถ้ามีคนเฝ้าของได้ก็ให้เฝ้าโต๊ะไว้ แล้วก็ลงไปหาอะไรทาน เสร็จแล้วก็รีบขึ้นมาทำงานต่อได้เลย
จาก MRT สามย่าน -> MRT ศูนย์ฯ ศิริกิตต์ = Commart Thailand 2013
ออกจาก Too Fast Too Sleep กลับไปที่ MRT สามย่านเหมือนเดิม คราวนี้ไม่ต้องเปลี่ยนไปไหน ไปลงที่ MRT ศูนย์ศิริกิตต์เลย
งานขายของ IT ปีนึงมีกันหลายหน งานนี้ก็เช่นกันที่จัดต้นปีท้ายปีกันเลยทีเดียว สินค้าในงานรอบนี้ถ้าให้ผมแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็คง คอมพิวเตอร์(รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วง) 60%, มือถือและอุปกรณ์พกพาต่างๆ 39% อื่นๆ 1%
อย่างพวกเครือข่ายมือถือเนี่ย ก็ยังจะมางานนี้ ผมละไม่เข้าใจ TME พวกเจ้าก็มากันนะ ส่วนราคาของสินค้า ผมดูๆ แล้วก็ถือว่าลดบ้างไม่ลดบ้างตามกันไป แต่ถ้าจะเอาโปรโมชั่นสินค้าหรือว่าอยากได้ของแถมเวลาซื้อคอมพิวเตอร์ ก็แวะมาได้ที่งาน Commart Thailand 2013 นะครับ
จาก MR ศูนย์ ศิริกิตต์ -> ARL มักกะสัน = a day Bike Fest 2013
ลง MRT ศูนย์ศิริกิตต์เหมือนเดิม คราวนี้เราต้องไปลงที่ MRT เพชรบุรี เพื่อไปที่ ARL มักกะสัน ซึ่งเดินไม่ไกลกันมาก
โอเค ขอพ่นเรื่องงานนี้เยอะหน่อย เพราะชอบมากกกกกก ไม่คิดว่างาน Bike Fest ในไทยมันจะดูอลังการแบบนี้ คือตัวงานจะจัดที่อาคารของ ARL นั่นแหละครับ ตอนแรกผมเห็นป้ายโฆษณาก็งง ไปจัดตรงไหนของ ARL หว่า แล้วห็เลยมาบางอ้อว่ามันเป็นอาคารสำนักงานใหญ่นี่เอง
สำหรับงาน a day Bike Fest 2013 มีผู้สนับสนุนเป็นโค้กและพ่องานคือสำนักพิมพ์ a day สำนักพิมพ์ที่อินดี้ในสามโลกร่วมกันจัดขึ้น ภายในงานเราจะเห็นคนเดินจูงจักรยานกันเป็นเรื่องปกติมาก มีตั้งแต่รถแบบ Vintage, City Bike, Fix Gear รวมไปถึงหลายๆ แบบ หรือเดินๆ ไปก็เจอคนกำลังสุมหัวซ่อมจักรยานกันอยู่กลางงาน โอ่ยยยย ชอบบบบ นี่กะว่าถ้าไม่ติดว่าตัวเองอยู่รังสิตจะสอยจักรยานพับได้ไปปั่นเล่นแล้ว เสียดายจริงๆ
บรรยากาศของงานก็จะมีการขายอุปกรณ์ต่างๆ ของจักรยาน ขายจักรยานด้วย หลายแบบ หลายไซส์ ตั้งแต่ของเด็กยันไปจนถึงของคนแก่ มีบู้ทที่ให้คำแนะนำเรื่องการปั่นจักรยานสู้โรคจากโรงพยาบาล ผมก็ไปทดสอบร่างกายมา ปรากฎว่าร่างกายอ่อนแอยิ่งนัก บีบข้อมือก็ได้เกณฑ์ต่ำ วัดความดันปอดก็ต่ำ จนมาคิดๆ ดูแล้วว่า เราออกกำลังกายไม่ถูกวิธีหรือเปล่า ช่างมันๆ เข้าเรื่องต่อ แล้วก็มีเวทีที่แสดงมินิคอนเสิร์ต รวมไปถึงเวทีเสวนาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวจักรยานด้วย
ข้างนอกงานก็มีซุ้มอาหารครับ แล้วก็มี Test Drive คือลานที่ให้ทดสอบจักรยาน ปั่นกันชิวๆ เพลินๆ ได้ ถัดมาเป็นพวกโชว์ของ แก๊ง Extreme ที่เล่นจักรยานผาดโผนก็จะมาโชว์กันยกล้อสนุกมาก มีการเปิดเพลงจาก DJ โป๊งๆ ชึ่งกันไป
เราอาจจะมองว่าเรื่องปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ ไม่น่าจะฮิตติดลมบนอะไรขนาดนี้ วันนี้ผมเจอคนในแวดวงไอทีทั้ง 3 คนเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นพี่โก๋ หรืออ.ศุภเดชแห่งแบไต๋ไฮเทค +Supadej (@ripmilla) และพี่จอย +jidapa (@joyz) ควงคู่กันมาดูจักรยานกัน แถมเจอนายช่างหนุ่ย +Pongsuk (@nuishow) แห่งแบไต๋ฯ เหมือนกัน แต่งตัวมากันเต็มยศเลย แล้วต้องบอกว่าเห็นพี่โก๋แล้วแอบตกใจ คือ ตอนผมเข้าค่าย YWC แล้วเจอพี่เค้า ก่อนหน้านี้ยังเป็นหนุ่มหุ่นหมีอยู่เลย วันนี้เจอกันหุ่นดูเฟิร์มมากกก คือไม่ได้ผอมจนเชพบ๊ะนะครับ แต่ว่าดูดีอะ เห็นแล้วอิจฉาเลย นี่คือผลจากการปั่นจักรยานของพี่เค้า สุดยอดมากกกกก
ผมเลยมองว่า การได้ปั่นจักรยาน มันเหมือนการเิปิดโลกใหม่ให้ตัวเองเลยนะ แต่ก่อนผมก็ชอบปั่นจักรยานมาก แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย (จริงๆ ต้องบอกว่าช่วงม.ปลายด้วย) ไม่ค่อยได้ปั่นเลย ขนาดก่อนจะมาฝึกงานก็ยืมของเพื่อนที่มอไปปั่นเล่นอยู่บ่อยๆ
ถึงไม่ได้ชอบปั่นจักรยานเป็นชีวิตจิตใจ แต่ถ้าได้มาเดินเล่นที่งาน a day Bike Fest ดูซักรอบ ซึ่งเค้าบอกว่าอาจจะจัดทุกปีเลย (ปีนี้ปีที่ 3 มั้ง) อาจจะติดใจสอยจักรยานกลับบ้านไปปั่นเล่นก็ได้นะค๊าบ อิอิ
จาก ARL มักกะสัน -> ARL พญาไท = จบภารกิจ!
ครั้งแรกเลยที่ได้ขึ้นรถไฟฟ้า ARL ที่เขาร่ำรือกัน สถานีพี่แกจะใหญ่ไปไหนครับ เดินขึ้นสถานีทีขาแทบลาก แล้วช่วงที่ผมไปคือช่วงพีคอะ พอเข้าไปในรถไฟได้ ขออากาศให้กรูได้หายใจหน่อย ฮือออออ โดยรวมของ ARL ก็คิดว่า เออ..สมควรละที่เอ็งจะโดนเค้าบ่นกัน
พอออกจากสถานี โฮฮฮฮฮ คนมาจากไหนอี๊กกกก จนผมออกไปจากนอกรถแล้วต้องยืนรอให้คนเดินออกไปให้หมดอะ ไม่งั้นก็ไม่ได้ลงซักที
ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นทริปสั้นๆ ในหนึ่งวันที่ผมใช้แต่ รถไฟฟ้า ระบบขนส่งสาธารณะที่คนกรุงเทพฯ ไว้วางใจกัน (แอบสงสาร BTS ที่ผมไม่ได้แวะไปเที่ยวแถวสถานีไหนเลย) ถือว่าทั้ง 3 แบบแตกต่างกันมากเลยนะครับ ทั้ง BTS, MRT และ ARL เข้าใจว่าขึ้นอยู่กับสภาพผู้คนแถวนั้น แต่ก็ต้องบอกว่า BTS ก็ถือว่าได้เปรียบสุดที่วิ่งอยู่กลางเมือง หลังจากนี้ก็ต้องจับตาดูกันต่อว่า โครงการส่วนขยายต่างๆ รวมถึงสายรถไฟสีใหม่ๆ เราจะได้ใช้กันก่อนที่โลกจะเกิด Armageddon หรือเปล่า ก็ต้องติดตามกันต่อไป ?